
การกู้ซื้อที่ดินเปล่ามีโอกาสที่สถาบันทางการเงินจะปล่อยกู้ยากมาก เนื่องจากไม่มีแผนที่จะนำที่ดินเปล่าไปทำประโยชน์ชัดเจน แตกต่างจากการกู้ซื้อที่ดินเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และประกอบกิจการ ที่สามารถกู้ผ่านได้เพราะมีแบบแปลน และแผนประกอบธุรกิจชัดเจนที่ใช้ประกอบการยื่นกู้ซื้อที่ดิน
คำตอบอาจจะทำลายฝันไปสักเล็กน้อย แต่คำตอบของคำถามนี้คือ “เป็นไปได้ยากมาก” ที่สถาบันการเงินจะให้กู้สินเชื่อเพื่อลงทุนในที่ดินเปล่าโดยไม่มีโครงการทำประโยชน์ใด ๆ บนที่ดินผืนนั้น ซึ่งเหตุผลที่ธนาคารเข้มงวดกับการซื้อที่ดินเปล่าที่ไม่มีแผนสร้างประโยชน์ชัดเจน เหตุโดยรวมเกิดจากที่ดินเปล่าที่ไม่ทำประโยชน์ถือเป็นทรัพย์สินที่ “มีความเสี่ยงสูง” เนื่องจาก...
1. ขายทอดตลาดได้ยาก
ที่ดินเปล่าเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายเปลี่ยนมือได้ยากกว่าที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะที่ดินเปล่าแถบชานเมืองหรือต่างจังหวัดมีความคล่องตัวในการซื้อขายต่ำ ทำให้ธนาคารมองว่า ถ้าหากลูกหนี้มีการกู้ซื้อที่ดินเปล่า และในเวลาต่อมาไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ จนเกิดการยึดทรัพย์จำนอง การขายที่ดินเปล่าเพื่อนำเงินใช้คืนหนี้จะเป็นภาระหนักกับธนาคารและอาจไม่คุ้มค่า
2. ความเสี่ยงที่ลูกหนี้จะยอมให้มีการยึดหลักทรัพย์โดยง่าย
เนื่องจากที่ดินเปล่าที่ไม่มีแผนหรือโครงการในการใช้ประโยชน์ ลูกหนี้ธนาคารอาจจะยอมให้ธนาคารยึดทรัพย์ได้ง่ายกว่าหากไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ เนื่องจากไม่มีความผูกพันหรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต
เปรียบเทียบกับการกู้ซื้อที่ดินเปล่าเพื่อปลูกสร้างบ้านอยู่อาศัยเอง หรือเพื่อใช้ก่อสร้างโรงงานขยายกิจการ ลูกหนี้ย่อมมีความพยายามหาทางผ่อนชำระหนี้เพื่อเก็บรักษาที่ดินไว้เพราะมีความสำคัญต่อการเป็นที่พักอาศัยหรือการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นผลดีกับธนาคารมากกว่า
เนื่องจากสิ่งที่เป็นรายได้ของธนาคารคือดอกเบี้ย แต่การยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดจะมีค่าใช้จ่ายตามมาและจะยังไม่มีรายได้กลับคืนมาจนกว่าจะสามารถขายทรัพย์สินสำเร็จ
3. เกรงการทำให้ทรัพย์สินเสื่อมมูลค่า
ประสบการณ์ของธนาคารที่พบเจอลูกหนี้นำที่ดินไปใช้ในทางที่ทำให้ทรัพย์เสื่อมมูลค่ากลายเป็นต้นเหตุให้ธนาคารมีความเข้มงวดปล่อยกู้ซื้อที่ดินเปล่า เช่น ลูกหนี้กู้ซื้อที่ดินเปล่าจากนั้นขุดหน้าดินขายแล้วยอมให้ธนาคารยึดทรัพย์
โดยสภาพที่ดินหลังถูกขุดหน้าดินอาจกลายสภาพเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่จนมูลค่าลดลงมากจากวันที่ธนาคารเข้าประเมินราคาก่อนให้กู้สินเชื่อ
การกู้ซื้อที่ดินเปล่าจึงเป็นไปได้ยากมาก แม้บางธนาคารอาจจะอนุมัติให้กู้สินเชื่อกับผู้ยื่นกู้บางรายก็ตาม วงเงินกู้ก็มักจะกำหนดให้ไม่เกิน 50% ของราคาประเมิน เช่น ราคาที่ดินแปลง A ราคาขายเท่ากับ 5 ล้านบาท ราคาประเมินจากธนาคารอยู่ที่ 4 ล้านบาท ธนาคารให้กู้ในวงเงิน 50% ของราคาประเมินเท่ากับให้กู้ 2 ล้านบาท ผู้ยื่นกู้จึงต้องมีเงินสดอยู่แล้ว 3 ล้านบาทจึงจะสามารถซื้อที่ดินเปล่าแปลง A ได้
ที่มา : www.ddproperty.com